งานนี้ต้องบอกว่าเป็นไปตามตรรกะจิตวิทยาแน่นอนครับสำหรับการออกมากล่าวแสดงความคิดเห็นต่อกรณีการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินใจเกมนัดชิงชนะเลิศลีก คัพ หรือ แคปปิตอล วัน คัพ จากทางด้านของ โจเซ่ มูริญโญ่ กุนซือทีมสิงห์บลู เชลซี ซึ่งในซีซั่นนี้ได้รับผลกระทบในด้านลบจากการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินอยู่บ่อยครั้งด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมลีกแมทที่ผ่านมาที่สิงห์บลูเปิดรังเสมอกับเบิร์นลี่ย์ไป 1-1
ทั้งนี้มูริญโญ่กล่าวถึงเกมนัดชิงชนะเลิศลีก คัพที่ทีมของเขาจะลงสนามพบกับไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส ณ สนามเวมบลี่ย์ว่าตนเองมั่นใจมากๆว่าเกมนี้ผู้ตัดสินจะทำหน้าที่ของเขาได้ดีที่สุด ประเด็นการตัดสินที่ไม่ผิดพลาดจะไม่สร้างปัญหาให้กับทีมเชลซี และสเปอร์ส มูริญโญ่อธิบายเหตุผลว่าเกมนี้เป็นเกมนัดชิงชนะเลิศ ฉะนั้นแล้วทั้งผู้เล่นของทั้งสองทีม ทั้งผู้ตัดสิน รวมถึงทุกๆคนที่ทำหน้าที่ในเกมนี้ย่อมมต้องการทำมันออกมาให้ดีที่สุด แล้วพวกเขาก็จะพากันทำให้มันเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศที่ยิ่งใหญ่ได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของกรณีมาติซ ที่ได้รับใบแดงจากเกมพบเบิร์นลี่ย์ หลังจากไปโวยนักเตะเบิร์นลี่ย์ เนื่องจากโดนเข้าบอลจังหวะอันตรายใส่นั้น มูริญโญ่กล่าวตอบกับสื่อ หลังโดนยิงคำถามใส่ว่าตัวเขาไม่ต้องการจะพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะหากพูดไปอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง สำหรับเกมพบเบิร์นลี่ย์นั้น มาติซ ถูกผู้เล่นเบิร์นลี่ย์เข้าบอลในจังหวะอันตรายใส่ แล้วเจ้าตัวก็ลุกตามไปโวยใส่ผู้เล่นเบิร์นลี่ย์ ด้วยมองว่ามันอาจเป็นจังหวะทำลายอนาคตของตัวเขาได้เลย แต่กลับเป็นเจ้าตัวที่ถูกใบแดงจากผู้ตัดสินในสนามไล่ออกจากเกมการแข่งขันไป พร้อมกับโดนแบนสามเกม ตามกฎได้รับใบแดงโดยตรง และหลังจากเกมนั้นประเด็นดังกล่าวก็เป็นที่พูดถึงกันอย่างหนัก โดยเฉพาะกระแสจากแฟนบอลมองว่าจังหวะนั้นสุ่มเสี่ยงต่อการที่มาติซจะขาหักได้เลย สุดท้ายแล้วเชลซีจังตัดสินใจอุทธรณ์ใบแดงของมาติซ แต่ไม่เป็นผล เอฟเอไม่รับคำอุทธรณ์จากพวกเขา